วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2552

“เด็กๆVSศิลปะ” ในมุมมองของพี่สาวนายก





มีหลายคนมักกล่าวกันว่า สมุดระบายสี ดินสอสีและทุกอย่างที่เกี่ยวกับศิลปะเป็นของอาวุธข้างกายของเด็กหลายคน เพราะเด็กส่วนใหญ่มักสนุกกับการสร้างจินตนาการบนกระดาษวาดรูป ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีอีกครั้งหนึ่งที่ทางทีมงานLife and Family ได้มีโอกาสพบ ศ.พญ.อลิสา วัชรสินธุ พี่สาวคนเก่งของนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและเป็นคุณแม่ของน้องไอติมที่หลายคนแอบชื่นชม พร้อมกับพูดคุยกับคุณพล ตัณฑเสถียร ดาราชื่อดังมากความสามารถในวันแถลงข่าวงาน “วันระบายสีเด็กทั่วโลก (World Kids Colouring Day) ที่จะจัดขึ้นวันที่ 5 พ.ค.นี้ เวลา 10.00-20.00 น. ณ ลานเอเทรี่ยม 2 เซ็นทรัล เวิลด์

อย่างไรก็ดี ศ.พญ.อลิสา วัชรสินธุ หัวหน้าหน่วยจิตเวชเด็ก ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวถึงความสำคัญของศิลปะว่า “ศิลปะเป็นเครื่องมือที่ดีในการพัฒนาความสามารถของเด็ก หากพ่อแม่ให้เด็กๆได้รู้จักศิลปะเร็วเพียงใด เด็กๆยิ่งได้ประโยชน์จากการใกล้ชิดศิลปะมากเท่านั้น ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนยังได้นำศิลปะต่างๆมาใช้ในการบำบัดเด็กอีกด้วย ซึ่งศิลปะในการรักษานั้น แม้จะไม่ใช่การรักษาหลัก แต่ศิลปะเป็นศาสตร์ชนิดหนึ่งที่นิยมใช้เพื่อการสื่อสารสำหรับกับเด็กบางประเภทเช่น เด็กที่มีปัญหาด้านอารมณ์ หรือเด็กที่ถูกทารุณกรรม ผู้ที่ไม่สามารถสื่อออกมาทางคำพูดได้ จึงต้องอาศัยการวาดภาพแทน รวมไปถึงกลุ่มเด็กที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองก็มักอาศัยศิลปะในการสื่อสารด้านอารมณ์เช่นกัน”



ศ.พญ.อลิสา วัชรสินธุ
ส่วนข้อดีของศิลปะในมุมมองของศ.พญ.อลิสานั้น คุณหมอกล่าวว่า “ศิลปะเป็นสิ่งที่คู่กับเด็กๆมาโดยตลอด การที่เด็กๆชอบวาดรูป ระบายสี ใช้เวลาว่างอยู่ในโลกศิลปะนั้น นับเป็นกิจกรรมที่ลงทุนค่อนข้างน้อยเพราะอุปกรณ์ที่ใช้ก็มีเพียงดินสอสี กระดาษ หรือพู่กันตามถนัด ซึ่งข้อดีที่เด่นชัดของศิลปะนั้น คือ ศิลปะได้สร้าง“จินตนาการ”ของเด็กอยู่เสมอ ดังนั้นพ่อแม่ควรแบ่งเวลาอยู่กับลูกและทำกิจกรรมร่วมกันผ่านศิลปะก็เป็นได้เช่น การวาดรูปด้วยกันพ่อแม่ลูก หรือชื่นชมลูกทุกครั้งที่เขาใช้เวลาอยู่กับศิลปะ”

อย่างไรก็ดีศ.พญ.อลิสา ได้ฝากถึงพ่อแม่ทุกคนว่า “แม้ว่าการที่ลูกชอบจับดินสอวาดภาพระบายสีจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขาและพ่อแม่เองก็รู้สึกภูมิใจ แต่ความไม่พอดี และการคาดหวังในตัวเด็กจากพ่อแม่ก็อาจทำร้ายเขาไม่รู้ตัว เพราะเด็กบางคนรักศิลปะมาก จนพ่อแม่เห็นแววว่าลูกน่าจะไปทางสายศิลปะได้ดีกว่ากิจกรรมอื่น จึงเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษ และคาดหวังในตัวลูกว่า เขาจะต้องเป็นศิลปิน ต้องวาดรูปเก่ง ซึ่งอันที่จริงแล้วการคาดหวังของพ่อแม่จะเป็นการทำร้ายเขาหากเขาถูกบีบบังคับ ซึ่งหมออยากบอกพ่อแม่ทุกคนว่า ปัจจุบันนี้เด็กไทยเรามักอยู่ในสภาพที่ถูกกดดันมาก เด็กเครียดเพราะความคาดหวังของพ่อแม่ โดยที่พ่อแม่เองไม่ได้คำนึงถึงเรื่อง “พรสวรรค์” ฉะนั้นพ่อแม่ทุกคนควรตระหนักอยู่เสมอว่า สิ่งใดที่ลูกชอบ ควรให้เขาลงมือทำอย่างมีความสุข อย่าไปคาดหวังกับเขา และเชื่ออยู่เสมอว่า ไม่ว่าเขาจะเลือกกิจกรรมอะไร สิ่งที่เขาทำคือสิ่งที่เขาชอบ”


คุณพล ตัณฑเสถียร

ทางด้าน คุณพล ตัณฑเสถียร นักแสดงชื่อดังได้แนะว่า “ปัจจุบันนี้ โกส่วนใหญ่มักใช้เวลาไปกับการเล่นเกม ซึ่งจริงแล้วมันไม่เหมาะสมเลย เด็กๆควรจะได้ทำกิจกรรมอื่นบ้าง แต่เรื่องนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับพ่อแม่ด้วยว่ามีเวลาให้ลูกมากน้อยแค่ไหน เพราะพ่อแม่บางคนทำงานจนไม่สามารถแบ่งเวลาให้ลูกได้อย่างที่ควรจะเป็น และไม่ได้คำนึงว่าเด็กๆกับศิลปะเป็นสิ่งที่ควรอยู่ด้วยกัน เด็กคนไหนห่างไกลศิลปะ ผมว่าน่ากลัวนะ เพราะศิลปะมันเป็นส่วนหนึ่งในการขัดเกลาจิตใจเด็ก แม้ว่าเด็กแต่ละคนจะมีความชอบที่ต่างกันไป แต่ผมเชื่อว่าจินตนาการส่วนหนึ่งมาจากโลกแห่งศิลปะ ผมจึงอยากให้พ่อแม่ให้ความสำคัญกับศิลปะมากขึ้น เพราะอย่าลืมว่าศิลปะได้สร้างความอ่อนโยนทางด้านจิตใจให้กับเด็กๆครับ”

อย่างไรก็ตามศ.พญ.อลิสาและคุณพลต่างมีความเห็นที่ตรงกันว่า “ศิลปะได้สร้างจินตนาการและพัฒนาทักษะด้านความคิดของเด็กๆได้เป็นอย่างดี แต่ศิลปะก็เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งเท่านั้นของเด็กๆเพราะอย่างที่บอกว่าเด็กแต่ละคนอาจชอบไม่เหมือนกัน เด็กบางคนอาจไม่ถนัดศิลปะ และเลือกที่จะเล่นกีฬา พ่อแม่ก็ควรส่งเสริมไปทางด้านนั้นๆแต่อย่าบังคับลูกจนเกินไป เพราะมิเช่นนั้นแล้ว เด็กๆอาจจะเบื่อในสิ่งที่เขารักก็เป็นได้ ทุกอย่างควรอยู่บนพื้นฐานของความพอดี โดยการส่งเสริมในด้านที่เขาถนัด แต่อาจเสริมกิจกรรมอื่นเพื่อความหลากหลายมากขึ้นก็ได้”

ไม่มีความคิดเห็น: